สำหรับมือใหม่หัดวิ่งที่ไม่เคยออกกำลังกายมานับสิบปี เราแนะนำให้วิ่งบนลู่ไฟฟ้าก่อนนะ วิ่งบนลู่ไฟฟ้าเพื่อฝึกการหายใจให้ได้ในระยะหนึ่งก่อน อย่างน้อยๆต้องสามารถวิ่งช้า เร็ว สลับบนลู่ไฟฟ้าให้ได้สักประมาณ 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง จากนั้นค่อยลองไปหัดวิ่งบนถนนดู
วิ่งบนลู่ไฟฟ้า กับ วิ่งบนถนน ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย ถ้าคุณวิ่งบนลู่ได้ 10กิโล แล้วคิดจะไปลงงานวิ่งระยะ 10กิโล เราอยากบอกว่าอย่าเพิ่งไป จากประสบการณ์ตัวเองที่เคยดีใจว่าชั้นวิ่งได้ 10กิโลแล้ว (ใช้เวลา 1.30 ชม บนลู่ไฟฟ้า) และตัดสินใจไปลงงานวิ่งเล็กๆงานหนึ่ง ก่อนไปตั้งใจว่าจะลง 10กิโล แต่ฟ้าดินคงปรานี เพราะจู่ๆตอนสมัครก็เปลี่ยนใจลง 5กิโลแทนดีกว่า (เพิ่งหัดวิ่งได้ 2เดือน ใจยังป๊อด)
พอวิ่งไปได้ 1กิโลเราก็เริ่มเดินแล้ว เหนื่อยมาก (ปกติที่วิ่งบนลู่เหนื่อยขนาดนี้ต้องวิ่งไปแล้วอย่างน้อยๆ 3-4โล) จากนั้นก็เดินๆ วิ่งๆ แต่เดินซะส่วนใหญ่ เข้าเส้นชัยด้วยอาการสะบักสะบอมพอสมควร ตั้งแต่วันนั้นเราเลิกวิ่งบนลู่ไฟฟ้าเลย จะวิ่งเฉพาะตอนฝนตกเท่านั้น
เราไม่มีข้อมูลทางวิชาการนะว่าทำไมวิ่งบนถนนกับวิ่ง่บนลู่ถึงต่างกัน แต่เราคิดว่าคงเป็นเพราะเวลาวิ่งบนลู่ ลู่วิ่งไฟฟ้ามันมีแรงส่งให้เรา เราแค่ยกขา สับขาให้ทัน หายใจให้ทันเราก็วิ่งได้เรื่อยๆแล้ว แต่พอออกมาวิ่งบนถนน มันไม่ใช่แค่ยกขา สับขา แต่เราต้องออกแรงถีบตัวเองให้ไปข้างหน้าด้วย ตาก็ต้องคอยมองถนน สมาธิต้องอยู่ที่เท้า ไม่งั้นเดี๋ยววิ่งเหยียบขี้หมา เดี๋ยววิ่งตกหลุม เรียกได้ว่าต้องใช้ร่างกายทุกส่วนประสานกันเพื่อประคองตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างปลอดภัย
มีคนบอกว่าถ้าอยากวิ่งบนลู่ให้ได้เหมือนวิ่งบนถนน ต้องปรับความชันด้วย เพราะเวลาวิ่งบนที่ชันๆ เราจะต้องออกแรงถีบตัวเองไปข้างหน้าเหมือนกัน เพราะฉะนั้นใครที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสออกไปวิ่งบนถนน ให้ลองฝึกวิ่งชันด้วยนะจ๊ะ ร่างกายจะได้ชิน
ปล. ถ้าคุณวิ่ง 10กิโลเมตร บนลู่ไฟฟ้าภายในเวลา 1 ชั่วโมงได้ คุณจะไปลองงานวิ่ง 10กิโลเมตรดูก็ได้ค่ะ แต่เวลาและ pace อาจจจะแย่กว่าที่วิ่งบนลู่ไฟฟ้า
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น