17 มิ.ย. 2556

Review Supersport 10 Miles International Run 2013



งานนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มิย. 56 จริงๆแล้วงานนี้ จะต้องจัดขึ้นวันที่ 19 พค 56 ณ ห้าง Central World แต่เนื่องจากช่วงนั้นมีกระแสเรื่องการชุมนุมทางการเมือง ทางผู้จัดจึงต้องเลื่อนงานออกมาเป็นวันที่ 16 มิย. 56 และเปลี่ยนมาจัดที่สวนลุมพินีแทน

ข้าพเจ้าเลือกสมัครผ่าน www.goadventureasia.com เพราะสามารถจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย ใครไม่มีบัตรเครดิตก็ใช้บัตรกรุงเทพ be 1st หรือ web card ของกสิกรก็ได้ สะดวกดี ไม่ต้อง fax หลักฐานการโอนเงิน แต่ค่าสมัครของ goadventureasia จะแพงกว่าสมัครโดยตรงนิดหน่อยค่ะ ประมาณ 50 บาท เป็นค่าดำเนินการของเค้า

งานนี้มีให้เลือกลง 3 ระยะ คือ 10ไมล์ (16กิโลเมตณ) 5ไมล์ (8 กิโลเมตร) และ 2ไมล์ (3.2กิโลเมตร) โดยระยะ 10ไมล์ กับ 5 ไมล์ ต้องสมัครล่วงหน้าเท่านั้น ไม่มีการสมัครหน้างาน นักวิ่งระยะ 10ไมล์ กับ 5 ไมล์ ทุกคนจะต้องติดชิพที่รองเท้าด้วย ก่อนวันงาน 1 วันข้าพเจ้าต้องไปรับเสื้อ ชิพ และเบอร์วิ่งที่สวนลุม (ดูจากกำหนดการ วันงานไม่มีการแจกเสื้อ เบอร์และชิพ)

 เสื้อ เบอร์ และชิพ

เนื่องจากเป็นนักวิ่งมือใหม่ ประสบการณ์ไปงานวิ่งยังน้อย และงานนี้เป็นงานแรกที่วิ่งใน กทม ก็เลยเตรียมการณ์ว่าจะไปให้ถึงสวนลุม 4.30 น. เพื่อให้ประตูทางด้านถนนวิทยุเปิด จะเอารถเข้าไปจอดทางนั้น เวลา 4.30 น ถึงหน้าประตูสวนลุม พอเลี้ยวรถเข้าไป ถึงได้รู้ว่า ประตูเค้าเปิดตั้งนานแล้ว เกือบไม่มีที่จอดรถ ยังคิดไม่ออกเลยว่าถ้าจอดในสวนลุมไม่ได้จะไปจอดไหนดี ถามว่า ทำไมไม่นั่งแทกซี่ไป คือบ้านอยู่ชานเมือง การเรียกแทกซี่ตอนตีสามตีสี่ไม่ใช่เรียกได้ง่ายๆเลย ไหนจะสัมภาระอีก ถ้างานไหนขับรถไปไม่ได้คงไม่ไปดีกว่า มันไม่สะดวกหลายๆอย่าง

จอดรถเสร็จก็เกือบตีห้าแล้ว นักวิ่ง 10ไมล์เตรียมตัว check in กันแล้ว พอเดินไปถึงจุดปล่อยตัวก็วอร์ม ยืด เหยียด รอเวลาประมาณ 25 นาที เวลา 5.25 น ก็ได้ฤกษ์ปล่อยตัวนักวิ่ง 5 ไมล์

แผนการวิ่งวันนี้คือ จะพยายามประคอง pace 7 ให้ได้ตลอดรอดฝั่ง เนื่องจากวิ่งแค่ 8 กิโล คิดว่าคงไหว ตอนวิ่งกิโลที่ 1-5 ข้าพเจ้าก็วิ่งตามๆคนข้างหน้าไป มีแซงบ้าง ผ่อนบ้าง ถึงจุดรับน้ำก็เดินหายใจสักพัก แล้วค่อยวิ่งต่อ ปัญหามาเกิดตอนเข้าสู่กิโลที่ 6 ข้าพเจ้าเกิดอาการจุกอีกแล้ว คราวนี้ซี่โครงด้านขวา ไม่ได้จุกจากการกินน้ำแน่ๆ เพราะจิบไปแค่ 2 อึก นอกนั้นบ้วนทิ้งกับล้างหน้า คาดว่าเกิดจากการวิ่งเร็วเกินกำลังเหมือนตอนภูเก็ตมาราธอนแน่ๆ (ตอนวิ่งเสร็จเปิดดู pace nike+ เห็น pace 5.3-6.3 ช่วงกิโลที่ 2-5 OMG! แต่จริงๆไม่ใช่หรอก pace ที่เห็นเกิดจาก  nike+เพี้ยนไป 800 เมตร เพราะฉะนั้น pace จริงคงราวๆ 6.3-7)

จากอาการจุกและเจ็บ ทำให้ต้องผ่อนด้วยการเดินสลับวิ่งเหยาะ กิโลที่ 6-7 เลยตกไปอยู่ pace8 เป็นที่เรียบร้อย กิโลสุดท้ายเกิดอาการฮึด ตัดสินใจ sprint 100เมตร สลับวิ่งเหยาะ 100 เมตร ทำให้ pace กลับขึ้นมาอยู่ที่ 7 ได้ เข้าเส้นชัยไปด้วยเวลา 59 นาที 57 วินาที (ยังไม่ถึงชั่วโมง ฮ่าๆ) ตอน sprint นี่เหนื่อยจริงๆ เป่าปากฟู่ๆ ตลอด ปกติถ้าวิ่งแล้วเจอกล้องก็ต้องเก็กท่าหน่อย แต่นาทีนั้นเก๊กไม่ไหว วิ่งให้ผ่านกล้องไปไวๆ เค้าจะได้จับภาพไม่ทัน พอเข้าเส้นชัยได้ ก็ฟินทันที มันเหมือนสมองปลอดโปร่ง โล่งยังไงไม่รู้ รับเหรียญ ตัดชิพเสร็จก็หายเหนื่อยเฉยเลย


งานนี้อาหารหลังเส้นชัย เป็นขนมปัง นมถั่วเหลือง จัดชุดให้คนละ 1 กล่อง ส่วนน้ำดื่มและเกลือแร่ จำไม่ได้ว่ามีกี่โต๊ะ แต่คิวยาว หิวน้ำสุดๆ ต้องมายืนรอคิวรับน้ำ ซุ้ม ขนมจีบ ซาลาเปา อยากกินอะ แต่คิวยาวมากๆ ขดกันเป็นงูกินหางเลย ตัดใจไม่กิน ไปซื้อเซเว่นดีกว่า ว่าจะเดินดูซุ้มรอบๆงาน แต่ก็เกิดอาการห่วงรถ เพราะจอดขวางอยู่ กลัวใครเข็นไปชน เลยตัดสินใจรีบกลับดีกว่า

จบงานนี้แล้วรู้สึกว่า ยังไม่พร้อมสำหรับ ฮาล์ฟมาราธอนเลย แล้วตอนนี้ก็แว่วมาว่า งานพัทยามาราธอน 2013 อาจจะล่ม ถ้างานล่มจริงๆ ข้าพเจ้าอาจจะลงระยะฮาล์ฟที่กรุงเทพมาราธอน 2013 แทน แต่ในระหว่างนี้ก็ยังซ้อมยาวโปรแกรมฮาล์ฟไปก่อน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น