13 มิ.ย. 2556

ซ้อมวิ่งยาวเพื่อวิ่ง Pattaya Marathon ระยะ Half สัปดาห์ที่ 12


สัปดาห์ที่ 11 เบี้ยวซ้อมวิ่งยาวไปงาน Laguna Phuket International Marathon เลยข้ามมาเป็นสัปดาห์ที่ 12เลย รอบนี้คืนก่อนวันซ้อมไปอ่านเจอกระทู้วิ่งสด ใน pantip.com เขียนโดยคุณนักรบสายรุ้ง ข้าพเจ้าไม่รู้หรอกนะว่าคนเขียนมีประสบการณ์การวิ่งมาโชกโชนแค่ไหน แต่ดูจากเนื้อหาที่ถ่ายทอดออกมาคิดว่าเจ้าของกระทู้น่าจะเข้าขั้นมือเก๋าแล้วล่ะ ถ่ายทอดออกมาได้โดนใจและน่าสนใจมาก ลองคลิกเข้าไปอ่านดูได้ค่ะ http://pantip.com/topic/30578448  

สรุปคร่าวๆจากกระทู้วิ่งสด คือการวิ่ง 2 กิโลเมตร แล้วพักเดิน 1 นาที ถ้าลง full marathon ก็ทำแค่ 21 เซต จะทำให้คุณวิ่ง full marathon จบแบบฟอร์มยังสด ไม่ใช่สะบักสะบอม อ่อนเปลี้ยไปหมด พออ่านกระทู้จบ ตาลุกวาวทันใด เริ่มมีความหวังกับระยะฮาล์ฟว่าเราคงจะไม่สะบักสะบอมเกินไป วิ่ง 2กิโล เดิน 1 นาที แค่ 10 เซตก็ได้แล้ว 

วันรุ่งขึ้นก็จัดเลย 6 รอบพุทธมณฑล ประมาณ 15 กิโลเมตรได้ (Nike+ เพี้ยนตลอด) ผลการทดลองวิ่งสด มีดังนี้

- เริ่มด้วยวิ่ง 2 กิโล เดิน 1 นาที ยังสบายๆ
- พอเข้ากิโลที่ 3 หอบแฮะ เลยเปลี่ยนใหม่เป็น วิ่ง 1 กิโล เดิน 1 นาที จนถึงกิโลที่ 8
- เข้ากิโลที่ 9 เริ่มออกอาการท้อ และไม่ไหว เลยเปลี่ยนใหม่เป็น วิ่ง 500 เมตร เดิน 1 นาที จนถึงกิโลที่ 14 (บางจังหวะก็วิ่ง 300 เมตร เดิน 1 นาที)
- เข้ากิโลที่ 15 sprint 100 เมตร เดิน 100 เมตร

พอวิ่งเสร็จรู้สึกฟินจากการ sprint จริงๆ ทุกครั้งที่ผ่านมาข้าพเจ้าพยายามจะ sprint กิโลสุดท้ายตลอดแต่ไม่เคยสำเร็จ นี่เป็นครั้งแรกที่วิ่งยาวที่สุด และยังมีแรงให้ sprint กิโลสุดท้าย มันสุดยอดจริงๆ และถึงจะเดินเยอะขนาดนี้ ก็ใช้เวลาไปแค่ 2.17 ชั่วโมง ถ้ากลับไปดูผลซ้อมสัปดาห์ที่ 10 จะเห็นว่าใช้เวลาพอๆกัน แต่ครั้งนั้นวิ่งได้แค่ 14 กิโล

แต่ข้าพเจ้ายังไม่แน่ใจนะว่านี่เป็นผลของการทดลองวิ่งสด เพราะสิ่งที่เป็นตัวแปรของวันนี้คือ ไม่มีแดด อากาศครึ้ม ฝนปรอยนิดๆ ลมพัดเอื่อยๆ (บรรยากาศน่าวิ่งในฝัน) และช่วงกิโลที่ 9 มีการกินเกลือแร่ด้วย ลองซื้อมากินเพื่อแก้ปัญหาหิวระหว่างวิ่ง ซึ่งช่วยได้เยอะจริงๆ วันนี้วิ่งจบโดยที่ไม่หิว 

หมายเหตุ: ตอนที่ทดลองวิ่งสด เวลาวิ่งข้าพเจ้าวิ่งจริงๆ ไม่มีการวิ่งเหยาะ วิ่งด้วย pace ที่วิ่งไหว คือประมาณ pace 8 (อาจจะมีหลุดไป 8 หน่อยๆบ้าง) พอถึงเวลาเดินก็เดินจริงๆ สูดหายใจเข้าปอดให้ลึกที่สุด สิ่งที่แตกต่างจากเมื่อก่อนคือ เมื่อก่อนพยายามไม่เดิน เหนื่อยแค่ไหนก็บอกตัวเองว่าอย่าเดิน เดี๋ยวเคยตัว ผลสุดท้ายก็คือวิ่งคลานเป็นเต่าช่วงท้ายตลอด บางทียังคิดเลยว่า หยุดวิ่งเหยาะ แล้วเดินเร็วน่าจะ pace เท่ากัน แต่ด้วยความที่ฝังหัวมาตลอดว่า อย่าหยุดวิ่ง ให้วิ่งเหยาะ ก็เลยพยายามจะไม่หยุดวิ่ง แต่ฝืนเหยาะตลอด พอวิ่งจบก็รู้สึกแย่มาก ท้อทั้งกายและใจเลยทีเดียว

สัปดาห์หน้าจะทดลองวิ่งสดอีกครั้ง และถ้าได้ผลดี ก็จะวิ่งสดตลอดไป ฮ่าๆๆ ข้าพเจ้าไม่ใช่นักวิ่งล่าถ้วย ต้องการวิ่งสะสมเหรียญเท่านั้น เพราะฉะนั้นเวลาเท่าไหร่ ไม่สำคัญ สำคัญแค่การก้าวเข้าเส้นชัยทุกสนาม ทุกระยะที่ลงด้วยรอยยิ้ม  และความสดชื่น ต้องขอบคุณคนเขียนกระทู้จริงๆ ที่ทำให้ข้าพเจ้าได้รู้ว่าการหยุดเดินแค่ 1 นาที มันไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ต้องรู้สึกแย่เวลาหยุดเดิน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น