10 ก.ย. 2556

Review Adidas King of The Road 2013



งานนี้เป็นงานวิ่งที่อยากไปมากๆ เข้าไปกรอกใบสมัครที่ nike shop เซนทรัล ปิ่นเกล้า ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เปิดรับสมัครเลย และได้ข่าวว่าเปิดรับสมัครแค่ 2 สัปดาห์ ก็เต็มแล้ว (ปีนี้จำกัดนักวิ่งแค่ 2500 คน) สาเหตุที่ข้าพเจ้าอยากไปงานนี้มากๆ ก็เพราะสนามวิ่งสุวรรณภูมิ ปกติเวลาวิ่งเห็นแต่รถราตามท้องถนน คราวนี้เปลี่ยนบรรยากาศมามองเครื่องบินมั่ง น่าจะแปลกไปอีกแบบ แต่ด้วยความที่งานนี้เปิดรับสมัครล่วงหน้าหลายเดือนจัด ข้าพเจ้ารอจน...ท้อง T_T ท้องจริงๆค่ะ แล้วเจอภาวะแท้งคุกคามด้วย ต้องฉีดยากันแท้งอาทิตย์ละ 1 เข็ม ทำให้อดวิ่งงานนี้ แต่ถึงไม่ได้ไปวิ่งก็แอบตามสามีไปเก็บภาพบรรยากาศเพื่อมาเขียนรีวิวด้วย

เริ่มจากการรับเสื้อและเบอร์วิ่งของงานนี้ บอกเลยว่าเจ้าหน้าที่เตรียมงานได้ดีมากๆ เสื้อและเบอร์ถูกจัดเป็น pack อยู่ในถุงซิปไว้เรียบร้อย ไปถึงเค้าจะมีบอร์ดให้ตรวจสอบรายชื่อและเบอร์ จากนั้นก็เดินถือใบเสร็จไปตามช่องเบอร์ของเรา เจ้าหน้าที่จะหยิบ pack เบอร์และเสื้อยื่นให้เราเลย ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ สำหรับคนที่ลงระยะ 16.8km ก็ไปตรวจสอบชิพด้วย

การจัดแพคเสื้อนี่ดีอย่างคือสะดวก รวดเร็ว แต่ก็มีข้อเสียคือเปลี่ยนไซส์เสื้อไม่ได้ หลายๆคนบ่นว่าปีนี้เสื้อตัวใหญ่มาก เปลี่ยนก็เปลี่ยนไม่ได้ ต้องรับมาแบบนั้น แต่สำหรับข้าพเจ้าถือว่าโอเค ไม่ใหญ่จนเกินไป พอรับได้ (อาจจะเป็นเพราะว่าอ้วนขึ้น)

มาที่วันจัดงาน 8 กันยายน 56 ข้าพเจ้าออกจากบ้านตั้งแต่ตี 3 เนื่องจากสุวรรณภูมิ อยู่คนละทิศกับบ้านเลย เผื่อเวลาไว้หลง และกลัวที่จอดรถจะเต็ม เลยเลือกออกแต่เช้าดีกว่า ปรากฏว่าไปถึงสุวรรณภูมิตี 4 ไปเร็วเกิ๊น นั่งหง่าวเลย เพราะระยะ 10km ปล่อยตัวเวลา 6.00 น. ที่จอดรถเค้าจัดให้จอดที่ลานจอดรถระยะยาว มีป้ายบอกทางไปงานวิ่ง adidas เป็นระยะ ค่อยๆขับแล้วมองไป ไม่หลงแน่นอน


 เต้นแอโรบิคกัน

เนื่องจากไปถึงเร็ว ไม่มีอะไรทำ ก็เลยไปถ่ายรูปตาม backdrop เล่น แล้วก็นั่งรอเวลาสักประมาณตี 5 มีนำเต้นแอโรบิคสำหรับคนลงระยะ 16.8km เลยไปแจมเต้นกะเค้าด้วย สนุกดี เค้าทำเวทีให้คนนำเต้นดีอะ อยู่สุงกว่าเราทำให้คนข้างล่างมองเห็นชัด แล้วก็แยกเป็นแท่นๆไป ที่ถูกใจอีกอย่างคือท่าเต้น เป็นท่าแอโรบิคตามสวนสาธารณะจริงๆ แบบเราเต้นตามได้ไม่เขิน ไม่ใช่ท่าเต้นออกเสต๊ป cover dance อะไรแบบนั้น นักวิ่งทั้ง ช ญ เต้นตามกันสนุกสนาน พอ 16.8km ปล่อยตัว ก็มีนำเต้นให้ 10km อีกรอบ สรุปวันนี้ข้าพเจ้ามาเต้นแอโรบิค ฮา......

 สุขาเคลื่อนที่ไฮโซ

หลังจาก 10km ปล่อยตัวก็เดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็เพิ่งรู้ว่า ห้องน้ำเคลื่อนที่ไฮโซอะ มันไม่ใช่สุขาเคลื่อนที่แบบที่เราเคยใช้ เดินขึ้นไปบนรถ มันเป็นพื้นกระเบื้อง แล้วก็เป็นชักโครกทั้งหมด มีห้องอาบน้ำด้วย งานนี้มีรถสุขาประมาณ 5 คัน ดูแล้วคิดว่าเพียงพอสำหรับนักวิ่งสองพันกว่าคน เพราะไม่มีแถวต่อคิวให้เห็นเลย (แต่ช่วงที่วิ่งเสร็จแล้ว ไม่ได้เดินไปดูอีกรอบนะ)
 

เข้าห้องน้ำเสร็จก็เดินไปที่เส้นชัย (งานนี้จุดเริ่มต้น กับ เส้นชัย อยู่คนละจุด) และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้มายืนลุ้นว่าใครจะเข้าเส้นชัยคนแรกของแต่ละระยะ  เห็นสถิตินักวิ่งแนวหน้าแล้วหนาวเลย 10km ปล่อยตัวได้แค่ 25 นาที ก็เห็น 16.8km ชายคนแรกและคนที่ 2 จ้ำเข้าเส้นชัยตีคู่กันมา สรุปว่า แนวหน้าเค้าวิ่ง 16.8km ด้วยเวลาเพียง 55 นาที ถ้าเป็นผู้หญิงคนที่ได้ที่ 1 ใช้เวลา 66 นาที (มองดูตัวเอง 66นาที เพิ่งจะได้แค่ 7 โลกว่าๆ โห หายใจกันทางไหนเนี่ย) ส่วนระยะ 10km ผู้ชายคนแรก ใช้เวลา 36 นาที ส่วนผู้หญิงไม่ได้มองว่าเข้ามาตอนกี่นาที

สำหรับนักวิ่งแนวกลาง ระยะ 16.8km หลังจากปล่อยตัวได้ 1.30 ชั่วโมง และระยะ 10km หลังจากปล่อยตัวได้ 1 ชั่วโมง นักวิ่งก็จะเริ่มทยอยเข้าเส้นชัยกันหนาตาขึ้น

สำหรับนักวิ่งเพื่อสุขภาพ เข้าเส้นชัยเวลาไหนไม่สำคัญ ขอแค่เข้าเส้นชัยได้ คุณก็ชนะแล้ว อันนี้เรื่องจริงค่ะ วิ่งมั่ง เดินมั่ง ถึงเส้นชัยได้ ก็ภูมิใจเหมือนกัน ฮิฮิ


ช่วงนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ยืนดูคนวิ่งเข้าเส้นชัย สลับกับดูเครื่องบินที่บินผ่านหัวไป พลางคิดในใจว่า ถ้าวิ่งอยู่ตอนนี้ข้าพเจ้าจะวิ่งได้กี่กิโลแล้วน้า...

 เต้นท์สีขาวๆ คือซุ้มแจกอาหารนักวิ่ง

พอสามีเข้าเส้นชัยแล้ว เราก็ไปเดินสำรวจซุ้มอาหารกัน งานนี้เศร้าตรงที่มีเบอร์วิ่ง แต่ไม่ได้วิ่ง ก็อดกินอะ เพราะเค้าแจกเป็นคูปองให้พร้อมเหรียญที่เส้นชัย ข้าพเจ้าไม่ได้วิ่งก็เลยไม่ได้คูปอง

เกลือแร่ นักเก๊ต ไอติมวอลล์

อาหารหลักของงานนี้คือ นักเก๊ต kfc และ โจ๊กคนอร์แบบเติมน้ำร้อน แอบเซ็งเล็กน้อย จะมีงานไหนแจกข้าวต้ม ข้าวไข่เจียวอะไรแบบนี้บ้างมั๊ยนะ

ระหว่างนั่งกินขนมนม เนย ก็สัมภาษณ์สามีเล็กน้อยเรื่องสนามวิ่ง เค้าบอกว่าจัดได้ดี ปิดถนนให้นักวิ่งทั้ง 2 ฝั่งเลย ไม่ต้องกลัวรถตามจี้ แล้ววันนี้อากาศดีมากๆ ไม่มีแดด ไม่ร้อน วิ่งไปก็มองเครื่องบินไป (T_T อิจฉาที่สุด)

ถ้าปีหน้าจัดที่นี่อีก ข้าพเจ้าว่าก็เวิร์คดีนะ เสียอย่างเดียว ถ้ามีแดดออก จะไม่มีที่หลบแดดกัน เนื่องจากเป็นลานเปิดโล่ง สำหรับคนที่สนใจงานวิ่งนี้ ปีหน้าถ้าเค้าเปิดรับสมัครก็รีบๆหน่อยนะคะ ไม่งั้นจะเหมือนปีนี้ หลายๆคนบ่นว่าสมัครไม่ทัน แต่ถ้าสมัครไม่ทันจริงๆก็มาวิ่งแบบไม่มีเบอร์ได้ค่ะ วิ่งฟรี แต่ไม่ได้เสื้อ ไม่ได้เหรียญ มีน้ำบริการ ส่วนเรื่องอาหารหลังวิ่งไม่แน่ใจค่ะว่าคนไม่มีเบอร์ได้คูปองมั๊ย

สำหรับตัวข้าพเจ้าเองก็คงต้องงดวิ่งไปอย่างน้อยๆก็ 1 ปี หลังคลอดต้องมาเริ่มซ้อมวิ่งกันใหม่ (เพิ่งจะวิ่ง 10km ได้ไม่นาน ต้องเริ่มใหม่อีกแล้ว เฮ้อ T_T)

ขวัญใจนักวิ่งสาวๆ ดร.นาวิน ตาร์ เข้าเส้นชัยตอน 1.30 ชม.

1 ความคิดเห็น :

  1. งานนี้ก็เป็น1ในคนที่สมัครไม่ทันเสียดายมาก

    ตอบลบ